Breaking News
Home » รู้ไว้ไกลโรค » เนื้อติดมัน กินมากไป ใจไตก็ไม่ดี

เนื้อติดมัน กินมากไป ใจไตก็ไม่ดี

พอๆๆๆ น้ำลายสอหมดแล้ว ทั้งเนื้อติดมัน เนื้อย่าง หมูทอด หมูสามชั้น หรือแม้กระทั่งหมูกรอบ ช่างน่ากินมากๆ

เมื่อก่อนผมเป็นคนหนึ่งนะที่ชอบ อาหารประเภทนี้ ติดมันสิ มันจะทำให้เนื้อนุ่มขึ้น ตอนเด็กๆ ชอบมาก กินเป็นประจำ แต่พอเริ่มโตขึ้นรู้สึกว่าเรากินเนื้อติดมันบ่อยเกินไปหรือเปล่านะ กินแล้วมีประโยชน์ไหมเนี่ย ไขมันพวกนี้มันจะไปพอกในตัวเรารึเปล่าหนอ

จนวันหนึ่งผมได้ศึกษาเรื่องราวของเนื้อติดมันแบบจริงๆ จังๆ โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อวัว ก็พบความจริงที่แสนจะตกใจว่า มันพวกนี้มีผลต่อเราจริงๆ ด้วย ผมไม่ได้บอกว่ากินปุ๊บตายปั๊บนะ ผมแค่บอกว่ามันมีผลกระทบต่อตัวเราอย่างยิ่งเลย

เนื้อหมู เนื้อวัว เป็นอาหารที่มีส่วนประกอบของโปรตีนเป็นหลักสำคัญเลย ซึ่งคนเราจำเป็นต้องใช้โปรตีนในการซ่อมแซมร่างกายทั้งเนื้อเยื้อและกล้ามเนื้อ แม้ในพืชจะมีโปรตีนอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าจากเนื้อ

คุณอาจจะรู้สึกว่า “นี่ไงเนื้อเป็นอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ฉะนั้นเราต้องกิน เรามาถูกทางแล้ว”

มันก็ใช่ อาหารหลายอย่างมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่… ต้องอย่าลืมว่า อะไรที่มากเกินไป เข็มเกณฑ์คุณประโยชน์ก็จะตีกลับสู่โทษร้ายแรงได้เช่นกัน อะไรที่เกินไปย่อมไม่ดีเลย การกินเนื้อที่มากเกินไปก็เช่นกัน

เมื่อเรากินเนื้อเข้าไป ร่างกายจะย่อยและดูดซึมสารอาหารกรดอะมิโนที่ได้จากการย่อยเนื้อ เพื่อนำไปใช้ในร่างกาย แต่ถ้าวันนั้นเรากลับกินเนื้อที่มากเกินไป กรดอะมิโนจึงมีมากเกินความจำเป็น สารเหล่านั้นจะถูกไตขับออกมาทางปัสสาวะ ตามธรรมชาติ สังเกตง่ายๆ วันไหนกินเนื้อมาก  ปัสสาวะเราจะมีกลิ่นฉุนและสีเข้มกว่าปกติ จากจุดนี้เองที่ทำให้ ไตต้องทำงานหนักขึ้นจนเกินไป หากเป็นเช่นนี้นานๆ ไตก็จะเสื่อมไวมากขึ้น

ไม่ใช่เพียงเท่านั้นนะครับ เนื้อติดมันยังเป็นตัวดี ไขมันที่ติดมา เป็นไขมันอิ่มตัว เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้ร่างกายเรามีไขมันสะสมมากขึ้น ทั้งในกล้ามเนื้อและหลอดเลือด ไปอุดตันในหลอดเลือด ไขมันอุดตันก็มา ความเสี่ยงที่เส้นเลือดตีบก็มา ความดันก็แกว่ง และไขมันในหลอดเลือดสูงนี้ยังเป็นบ่อเกิดของโรคเบาหวานด้วยนะเออ ถ้าไขมันไปอัดตันในกล้ามเนื้อจนกลายเป็นโรคอ้วนทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนักขึ้น คงไม่ต้องเดา โรคหัวใจจะเกิดขึ้นแน่นอน

ฉะนั้นเราจึงจำเป็นต้องจำกัดจำนวนโปรตีนที่ได้จากพืชและสัตว์ในแต่ละวันด้วย กินเนื้อให้น้อยลง กินเฉพาะวันพรีเมียมเท่านั้น อย่างเช่น ของดีจริงๆ อย่ากินเนื้อแบบไม่มีความจำเป็นพิเศษอะไร ผมไม่ได้ห้ามกินแล้วหันมากินเจกันอะไรขนาดนั้น ผมแต่อยากให้เราลดปริมาณลง กินเท่าที่จำเป็นก็พอ พอกันที บุ๊ปเฟ่เนื้อที่กองพูนเป็นซากศพ กินทั้งทีต้องเลือกกินที่มีความหมาย เพื่อต่อไปเราจะได้มีไตที่ดีไม่ให้เรามีโอกาสกินอาหารดีๆ ตลอดชีวิต

แรกๆ ผมก็เชื่อว่ามันฝืนมากมาย ผมก็เป็นเพราะเราชินกันการกินแบบนี้ไปแล้ว แต่เมื่อผมลองฝืนตัวเองสักพัก ผมก็เริ่มลดการกินเนื้อในแต่ละวันได้ กินเท่าที่จำเป็นและมีความหมายเท่านั้น

การควบคุมปริมาณโปรตีน ก่อนโรคไตวายเรื้อรังจะถามหา ควรจำกัดการกินเนื้อสัตว์ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะครึ่ง ต่อน้ำหนักตัว 10 กิโลกรัมต่อวัน เช่น ถ้าเรามีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม เราก็กินเนื้อสัตว์สัก 7-8 ช้อนโต๊ะต่อวันก็พอแล้ว

เพราะฉะนั้น เราควรกินเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากเกินไป โดนปริมาณที่แนะนำคือ 6 – 8 กรัม ต่อน้ำหนักตัวของเรา 10 กิโลกรัม หรือขึ้นอยู่กับระยะของโรคของเราด้วย โดยเฉพาะโรคไต ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควร และพยายามกินโปรตีนคุณภาพสูงจะดีกว่า เช่น เนื้อปลาทะเลน้ำลึก เพราะมีไขมันต่ำและยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง หรือจะเป็นไข่ขาว  เนื้ออกไก่ (ไม่ติดหนัง-มัน) นมไขมันต่ำ เป็นต้น

และที่สำคัญ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์แปรรูป เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง เพราะสิ่งนี้นอกจากเราโอกาสเป็นโรคไตแล้ว ยังเรายังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้เพิ่มขึ้น 18% เลยทีเดียว

วันนี้ผมรู้สึกเลยว่า การกินเนื้อน้อยลง กินผักมากขึ้นมันทำให้ร่างกายของผมสดชื่นขนาดไหน ลองดูครับ

กินเนื้อทุกครั้งอย่างมีความหมาย และอย่าเสียดายเนื้อราคาถูกๆ 555

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*