สมุนไพรจีน โหย่งเหิง โอกาสดีๆ ที่มีไม่รู้จบ
เชื่อไหมครับว่าแม้ทุกวันนี้ข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพเข้าถึงง่ายมากๆ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็รู้กันดีว่า “กินน้ำตาลมากๆ จะเป็นเบาหวาน” หลายคนพยายามหลีกเลี่ยงการกินน้ำตาล บางก็กลัวเป็นเบาหวาน บ้างก็กลัวอ้วน บ้างกลัวสิวขึ้น แต่เป็นที่น่าตกใจมากว่า การติดน้ำตาลของเรามีอัตราไม่มากนัก แต่อัตราคนเป็นเบาหวานกลับสูงขึ้นแบบทวีคูณเลยทีเดียว
ผมจึงคิดเลยว่า “การกินน้ำตาล กินของหวานมากๆ อย่างเดียว อาจจะทำให้เราเกิดเบาหวานได้ แต่มันต้องมีสาเหตุอื่นนอกเหนือจากนี้ด้วย รวมกันจนเป็นเบาหวานแน่ๆ”
#เบาหวานไม่ได้เกิดจากกินหวานแต่เพียงอย่างเดียวแน่นอน
การเป็นโรคเบาหวานได้นั้น เกิดจากผลที่ในเลือดของเรามีปริมาณน้ำตาลเข้มข้นกว่า 120 มก./ดล. (มิลลิกรัม/เดซิลิตร) เป็นเวลาติดต่อกันนานๆ ซึ่งการกินของหวานมากๆ บ่อยๆ ก็มีส่วนแต่ยังมีอีกหลายส่วนที่ส่งผลให้ในเลือดของเรามีระดับน้ำตาลสูงกว่า 120 มก./ดล. (มิลลิกรัม/เดซิลิตร) เช่นกัน
วันนี้ผมจะมาเล่าสาเหตุในปัจจุบันที่ทำให้เราป่วยเป็นเบาหวาน เพราะพฤติกรรม แม้ไม่ได้เป็นคนติดหวานก็ตาม
- กินหวานจนเป็นเรื่องปกติ บางคนมีอาการติดหวานโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองติดหวาน กินจนชินปากว่าแค่นี้ไม่เรียกว่าหวาน อารมณ์เดียวกับคนต่างประเทศที่บอกว่า 25 ‘C คือร้อนมาก แต่บ้านเรานี่ถือว่าเริ่มเย็น อะไรประมาณนั้น ข้อนี้ก็เกิดจากการติดหวานนั่นแหละ แค่เราไม่รู้ตัว
- พืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ที่เรากินมีการเร่งการเจริญเติบโต ส่วนมากอะไรที่เร่งโตด้วยปริมาณมักจะไม่ได้คุณภาพเท่าไหร่ เช่นเดียวกัน อาหารที่มีการเร่งโตจะมีสารอาหารน้อยลง เมื่อเรากินอาหารเท่าเดิมแต่คุณค่าทางอาหารน้อยลง ทำให้ร่างกายเราเกิดภาวะเซลล์ขาดสารอาหาร ภาวะเช่นนี้เพื่อการอยู่รอดของร่างกาย เซลล์จึงเรียกร้องน้ำตาลเข้ามาทดแทน เมื่อเรากินน้ำตาล/แป้ง/ข้าว ร่างกายก็จะเร่งการดูดน้ำตาลเราสู่งร่างกายในปริมาณที่มากทันที เอาไปใช้ถ้าใช้ไม่หมดก็สะสมเป็นไขมัน แล้วพอร่างกายขาดสารอาหารอีก ก็จะดึงน้ำตาลสะสมออกมาใช้อีก ทำให้ในเลือดเรามีปริมาณน้ำตาลสูงอยู่บ่อยๆ
- ขาดการเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกาย ข้อนี้รวมทุกการเคลื่อนไหวนะครับ เมื่อร่างกายเราไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ระบบเลือดจะไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้ส่งไปไม่ถึงเซลล์ปลาย สาเหตุนี้อาจทำให้เรามีอาการชาตามมือตามเท้าได้ง่าย เซลล์ส่วนปลายจึงเรียกร้องขออาหาร น้ำตาลเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน ทำให้ทุกการกินน้ำตาล/แป้ง/ข้าว ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลมากกว่าปกติ น้ำตาลในเลือดจึงสูงอยู่เรื่อยๆ ขนาดคนที่กินคลีน แต่วันๆ เอาแต่นั่งพิมพ์งานไม่เดินไม่ออกกำลังกาย ไม่ค่อยเคลื่อนไหวก็มีโอกาสเสี่ยงเป็นเบาหวานได้นะครับ
- ระบบย่อยอาหาร/ดูดซึมอาหาร/ระบบเผาผลาญไม่ดี อันนี้ก็มีส่วนครับ พอดูดซึมได้ไม่ดี ร่างกายก็ขาดสารอาหาร เข้าแบบเดิมเลย เมื่อร่างกายรู้ว่าระบบนี้เราไม่ดี มันก็กลัวเราตายจึงพยายามเร่งดูดซึมน้ำตาลเข้าร่างกายให้มากและสะสมจนอ้วนเลย สาเหตุที่ทำให้ระบบนี้ทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ก็เช่น กินไม่เป็นเวลา กินจุกจิก ระบบย่อยไม่ได้พักผ่อน พักผ่อนน้อย เครียด กินกาแฟบ่อยๆ บางครั้งก็เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ยิ่งอายุมากระบบย่อยก็จะไม่ดี จึงจำเป็นต้องกระตุ้นไฟย่อย ด้วยสมุนไพรที่มีรสเผ็ดซ่า เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ กระเพรา ชะพลู อะไรประมาณนี้
- กินอาหารซ้ำๆๆ ไม่หลากหลาย การกินอาหารซ้ำเดิมเหมือนเดิมทำให้เอนไซม์เราน้อยชนิดลง มีจุลินทรีย์น้อยชนิดลงไม่เติบโต ก็ส่งผลต่อการดูดซึมสารอาหารเหมือนกัน
- ข้อนี้สำคัญมากเลย แม้คุมอาหารก็เป็นเบาหวานได้ นั่นคือ กินน้ำน้อย ทำให้เลือดข้น พอเลือดข้นเลือดก็ไม่สามารถนำอาหารไปส่งผ่านเส้นเลือดฝอยไปสู่เซลล์ต่างๆ ได้ดี เซลล์จึงคิดว่าเรากำลังอดตาย จึงเรียกร้องน้ำตาล ทำให้เราอยากน้ำตาล/หิวข้าวบ่อยๆ เมื่อเรากินน้ำตาล/แป้ง/ข้าว ร่างกายก็จะรีบดูดเข้าร่างกายในปริมาณที่มากกว่าปกติ
สรุปง่ายๆ นะครับ โรคเบาหวานเกิดจากการมีปริมาณน้ำตาลในเลือดมากกว่า 120 มก./ดล. (มิลลิกรัม/เดซิลิตร) จนทำให้ระบบในร่างกายเกิดรวน สาเหตุเกิดจากติดน้ำตาลกินมากเป็นประจำ อีกสาเหตุหนึ่งคือ ร่างกายขาดสารอาหาร หรือเซลล์ส่วนปลายไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายต้องดูดซึมน้ำตาลให้มากขึ้นเพื่อมาทดแทนกันตัวเราตาย แม้เราจะกินน้ำตาล/แป้ง/ข้าว น้อย แต่ปริมาณการดูดซึมกลับสูงมาก เช่น ปกติร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลประมาณ 45% ก็ดีดตัวสูงขึ้นเป็น 80% แม้กินแป้งน้อยลงแต่ก็มีการดูดซึมน้ำตาลสูงเท่ากับคนที่กินแป้งเป็น 2 เท่าของที่เรากินเลยเชียวนะ
ผลที่ได้คือ น้ำตาลในเลือดก็สูงครับ ฉะนั้นอย่าคิดว่าไม่กินน้ำตาลเลยจะไม่เป็นเบาหวานนะ และหากปล่อยเรื้อรังนานๆ ร่างกายเราก็จะดื้ออินซูลินและเป็นโรคเบาหวานในที่สุด ยังไงหละครับ
แต่อย่าเพิ่งหลอนหวานขนาดนั้น ขอเพียงเราพยายามกินอาหารให้หลากหลาย ออกกำลังกายเป็นประจำ กินน้ำเยอะๆ กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และบำรุงไฟย่อยให้ดีให้เจริญอาหาร เราก็ห่างไกลโรคเบาหวานได้ครับ
#กินอาหารให้เป็น…..ยา
