“ตด” นับเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกสิ่งมีชีวิตจะเกิดขึ้นได้
ตดสิดี!! ถ้าไม่ตดเลย อันนี้ไม่ดีแล้ว แสดงว่าระบบทางเดินอาหารมีปัญหา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมอะไรที่ไปกวนลำไส้ เช่น ผ่าตัดช่องท้อง ถูกกระแทกแรงๆ ที่ท้อง ระหว่างดูอาการ ถ้ามีการ “ตด” เมื่อไหร่หละก็มีเฮได้เลย นั่นแสดงให้เห็นว่า ระบบทางเดินอาการไหลเวียนดีแล้ว
ถ้าจะแยกจำแนกการ ตด ก็จะมี “ตดดัง” “ตดเหม็น” “ตดบ่อย” มันคือรหัสมอสที่ร่างกายเรากำลังพูดคุยกับตัวเรา แล้วมันแปลว่าอะไรบ้างหละ มันกำลังเตือนอะไรเรา ไปดูกันเลย
ตดดัง
ตดมีเสียงดัง เกิดจากแก๊สถูกขับออกมาด้วยแรงดันอากาศหรือแรงเบ่งของเรา หรือเกิดจากแก๊สนั้นมีการแทรกตัวผ่านกล้ามเนื้อหูรูดที่บีบตัวแน่นเหมือนเราผิวปาก
ความดังของตดจะดังมากน้อยขึ้นอยู่กับ ความกระชับของกล้ามเนื้อหูรูดตูด กับความดันลมภายในลำไส้ใหญ่
ดังนั้น ตดมีเสียงไม่ได้บ่งบอกถึงความผิดปกติอะไร สบายใจได้
ตดบ่อย
โดยปกติเราจะตดประมาณ 14 – 23 ครั้งต่อวัน ถ้ามากกว่านี้แสดงว่ามีความผิดปกติ
อาการตดบ่อยอาจเกิดจากการกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดแก๊สมากเกินไป เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ชีส กะหล่ำปลี หัวหอม สุรา น้ำอัดลม
นอกจากนี้อาจเกิดจากความผิดปกติภายในร่างกายอีกด้วย
จึงนับว่า การตดบ่อยมากเกินไป เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพภายในที่เกี่ยวข้องกับโรคในระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคมะเร็งลำไส้ โรคลำไส้แปรปรวน ระบบดูดซึมอาหารทำงานผิดปกติ การแพ้นมวัวและโยเกิร์ต หรือกระเพาะมีปัญหา เช่นอาหารเป็นพิษ ฯลฯ
ตดเหม็น มีกลิ่น
ถ้าเราเอาสสารของตนมาตรวจดู เราจะพบสารเคมีในตด อยู่หลายชนิด จะมีกำมะถัน เป็นองค์ประกอบหลัก
แต่จะมีสารเคมีประมาณ 2% ที่จะทำให้ตดเรากลิ่นเหม็น คือ แก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือแก๊สไข่เน่า และอื่นๆ
แก๊สนี้เกิดจากเชื้อแบคมีเรียบางชนิดในลำไส้ผลิตขึ้นระหว่างการย่อยอาหาร
ฉะนั้น กลิ่นตดนี้ จึงขึ้นอยู่กับอาหารที่เรากินเข้าไปด้วย
ถ้าตดเหม็นแสดงว่าเราอาจจะกินอาหารพวกที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ชีส และนม รวมไปถึงถั่วชนิดต่างๆ หรือผักที่มีกลิ่นแรงๆ ด้วย
นอกจากนี้แก๊สเหล่านี้ต้องเดินทางผ่านลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ซึ่งเป็นศูนย์รวมของอาหารและกากอาหารที่ถูกย่อยสลายแล้ว จึงมีกลิ่นเหม็น
แต่ถ้ากลิ่มแรงมาก แสดงว่า ลำไส้ติดเชื้อแบคทีเรีย ท้องเสียนั่นเอง
จากข้อนี้ผมขอแยกเป็น 2 ประเด็น
ประเด็นแรก ร่างกายเรากำลังบอกว่า เราอาจจะกินโปรตีนมากเกินไปแล้วหละ
ถ้าเป็นเพราะเรากินผัก ถั่ว ก็ไม่กระไรมาก แต่ถ้าเกิดจากการกินเนื้อ อันนี้ต้องระวังนิดนะครับ การกินเนื้อมาก ส่งผลต่อระบบเลือด มีความเสี่ยงกับอาการเป็นโรคร้ายๆ มากมายด้วย
ประเด็นที่สอง เราไม่ได้กินเนื้อมากมายเลย แต่ยังตดเหม็นอยู่
เรื่องนี้เกิดจากร่างกายกำลังส่งสัญญาณแล้วหละว่า ในระบบทางเดินอาหาร กำลังมีของเสียค้างลำไส้มาก ก็อย่างที่ผมบอกไป ตดมันคือ แก๊สที่วิ่งผ่านลำไส้ ถ้าลำไส้สกปรก ตดเราก็จะมีกลิ่นเหม็นได้เหมือนกันซึ่งมันสามารถเกิดได้กับทุกคน และโดยเฉพาะคนที่ไม่ได้ขับถ่ายทุกวัน
เมื่อลำไส้สกปรกอาหารที่เรากินเข้าไปก็ต้องจะสัมผัสกับของสกปรกนั้นก่อนถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายเราก็จะมีของเสียมากขึ้นด้วย
ถ้าตดเหม็น แต่ไม่ขี้ แปลว่า มีของเสียค้างลำไส้มาก ต้องดีท็อก
2 ประเด็นนี้แก้ไขไม่ยาก คือ ลดการกินเนื้อสัตว์ และล้างลำไส้
การล้างลำไส้หรือดีท็อกแบบเบื้องต้น
ทำได้ด้วยการกิน “กล้วยน้ำว้า” เช้า 2 ลูก เย็น 2 ลูก
กินติดต่อกันจนกว่าตดจะหายเหม็น
แล้วคุณจะได้สุขภาพที่ดีขึ้น และมีระบบทางเดินอาหารที่สะอาดกว่าเดิม