สมุนไพรจีน โหย่งเหิง โอกาสดีๆ ที่มีไม่รู้จบ
เราทุกคนก็ไม่อยากเป็นโรคเบาหวานกันทั้งนั้น รู้ดีอยู่ว่าการกินน้ำตาลเยอะๆ คือบ่อเกิด แต่…
บางครั้งมีเหตุการณ์ที่เลี่ยงไม่ได้ เช่น บางมื้อต้องไปกินเลี้ยง ต้องกินข้าวกับลูกค้า ต้องดื่ม ต้องเข้าสังคม ต้องๆๆๆ หรือเพราะอยากแบบไม่ไหวแล้ว อุตส่าห์มาถึงที่จะไม่กินก็กระไรอยู่ จำเป็นต้องกินทั้งๆ ที่รู้ดีว่า สิ่งที่กินมีส่วนก่อให้เกิดเบาหวานได้ จนบางครั้งทำให้ไม่มีความสุขในการกินอะไรไปซะเลย
วันนี้ผมมี 4 เทคนิค กินน้ำตาล กินข้าว กินคาร์โบไฮเดรตยังไงให้เป็นบ่อก่อเบาหวานน้อยที่สุด
- กินพืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์เผ็ดซ่า เช่น น้ำขิง ข่า ตะไคร้ กระเพรา ใบชะพลู ขมิ้น พริกไทย กระเทียม เพื่อกระตุ้นไฟย่อย และทำให้ร่างกายเราเจริญอาหาร (หมายความว่า ดูดซึมได้ดี) เช่น หนานเฉาเว่ย จิงจูฉ่าย
- หลังจากนั้น ต้องกินธัญพืช / น้ำมันดี (น้ำมันมะพร้าว น้ำมันตับปลา) เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นให้มากๆ เมื่อสารอาหารมีมากพอ ร่างกายจะชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้ากระแสเลือดเอง
- พยายามกินอาหารที่มีกากใยมากๆ เช่น ผัก ผลไม้ (ชนิดสุกแล้วไม่หวาน) ก่อนกินน้ำตาล แปง ข้าว เพื่อให้กากใยเซตตัวในลำไส้เตรียมบล็อกการดูดซึมน้ำตาล
- เมื่อกินอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงแล้ว ให้กินน้ำเยอะๆ เพื่อทำให้ร่างกายขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะเร็วๆ ถ้าทำให้เหงื่อออกได้ด้วยก็จะช่วยให้น้ำตาลซึมออกทางเหงื่อได้เพิ่มอีกทางหนึ่งด้วย
สรุปคอนเซปง่ายๆ คือ พยายามให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารให้มากๆ พยายามบล็อกแป้ง บล็อกน้ำตาลให้ดูดซึมเข้าระบบเลือดให้ช้าๆ เมื่อน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดแล้วก็เร่งให้ขับออกไวๆ อย่าให้คั่งค้างนาน และพยายามอย่ากินน้ำตาล แป้ง ข้าวให้มากเกินไป เท่านี้ก็ลดความเสี่ยงได้แล้วประมาณหนึ่งแล้วครับ
อย่างไรก็ตามแม้จะใช้เทคนิคนี้แล้วก็อย่าชะล่าใจว่าปลอดภัยจนกินของหวาน ดื่มทุกวัน กินข้าวเป็นชามๆ ซะทุกวันเลยนะ ทางแก้ที่ดีคือกินให้น้อย นานๆ กินที อย่างที่ผมบอกมาแต่ต้น นี่คือเทคนิคให้ก่อเบาหวานน้อยที่สุดไม่ได้หมายความว่าจะไม่เกิดบ่อเกิดเลย เกิดครับ แต่ลดบ่อเกิดให้น้อยลง อย่าชะล่าใจจนกินมากเกินไป
การไม่กินต่างหากคือลดได้ 100% ถ้างดไม่ได้ เอาเทคนิคนี้ไปลดความรุนแรงควบคู่กับนานๆ กินทีก็ได้ครับ
กินน้อยๆ จะได้กินของอร่อยไปนานๆ
