Breaking News
Home » รู้ไว้ไกลโรค » 5 ข้อสังเกต เบาหวานแรกเริ่ม

5 ข้อสังเกต เบาหวานแรกเริ่ม

เบาหวานนับเป็นโรคเรื้อรังที่ส่วนมากมักจะเกิดจากพฤติกรรมของเราเอง เราสร้างขึ้นมาเอง ซึ่งส่วนมากแล้วก็เกิดจากอาหารการกิจกินนี่แหละ มีพฤติกรรมการกินแบบผิดๆ นานๆ นานมากพอจนเกิดการอักเสบแบบเรื้อรังทั่วร่างกาย โดยเฉพาะระบบหลอดเลือด พูดง่ายๆ คือ มีผลลัพธ์ของระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 126 มก./ดล. นานๆ จนเรื้อรังกลายเป็นโรคดื้ออินซูลิน หรือที่เรารู้จักคือ “เบาหวาน” นั่นเอง

เมื่อเบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง นั่นหมายความว่า มันจะค่อยๆ เป็น สะสมทีละเล็กละน้อยชนิดที่ถ้าเราไม่สังเกตแทบจะไม่เห็นความแตกต่าง รู้ตัวอีกทีก็หนักจนร่างกายมีอาการแปลกๆ ไปซะแล้ว ซึ่งสาเหตุนั้นไม่ใช่กินอะไรบางอย่างแล้วจะทำให้เป็นเบาหวานเลยทันที มันเกิดจากหลายๆ อย่างละสมมาเรื่อยๆๆๆ  

ด้วยสาเหตุนี้เอง เชื่อไหมครับว่า ในบรรดาผู้ป่วยเบาหวาน 100% มีคนที่เป็นโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้คิดไปตรวจไม่คิดดูแลตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองไม่ป่วย มากกว่า 40% เลยนะ เมื่อไม่รู้เขาก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม กระตุ้นให้เกิดเบาหวานเหมือนเดิมอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ทำให้อาการเบาหวานมีเวลาสะสมความรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆๆ รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นเบาหวานขั้นรุนแรงจนยากที่จะกลับตัวไปซะแล้ว

วันนี้เรามาคุยถึงจุดสังเกตผู้ที่เริ่มจะเป็นเบาหวานในระยะแรก หากมีอาการแบบนี้ ลองตรวจระดับน้ำตาลในเลือดดูบ้างก็ดีนะครับ ก่อนที่อะไรจะสายเกินแก้

  1. มีอาการกระหายน้ำบ่อยๆ ผู้ที่เริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้เลือดข้นเหนียวขึ้นเลือดไหลเวียนได้ไม่ดี ร่างกายจึงพยายามเรียกร้องน้ำเปล่าที่มากขึ้นเพื่อพยายามทำให้ความเข้มข้นในเลือดลดลงจนไหลเวียนได้ดี ฉะนั้นหาใครที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นเบาหวาน ยิ่งต้องมีวินัยในการดื่มน้ำให้มากกว่าเดิม
  2. หิวข้าวบ่อย บางทีกินข้าวแล้ว อ้าวหิวอีกแล้ว จนกลายเป็นคนที่ชอบกินจุกจิก หรือกินข้าวหลายมื้อในวันเดียว เกิดเพราะว่า เมื่อน้ำตาลในเลือดอยู่ในระดับที่สูง เลือดก็ข้น เมื่อเลือดข้นจึงไหลเวียนได้ไม่ดี จนไม่สามารถส่งสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผ่านเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเซลล์ต่างๆ ไม่ได้สารอาหารที่มากเพียงพอจึงส่งสัญญาณกระตุ้นให้เรารู้สึกหิวแม้จะกินไปแล้วไม่นานก็ยังไม่บรรเทาอาการหิวให้เซลล์ได้ จึงหิวอยู่เรื่อย และอาการนี้ยังส่งผลให้ร่างกายพยายามเร่งดูดซึมน้ำตาลไปเก็บไว้มาหขึ้นกว่าเดิมอีก ก็ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น อาการแย่ลง
  3. มีอาการง่วงนอนง่าย แม้จะนอนเต็มอิ่มแล้ว ก็ชอบง่วงนอน ตื้อๆ อยากนอนอยู่เรื่อย รู้สึกไม่ค่อยมีแรง อาการนี้เกิดจากการทำงานของตับอ่อน เราไม่รู้หรอกว่าตอนนี้น้ำตาลเกินเกณฑ์ไหม แต่ตับอ่อนมันรู้ พอน้ำตาลสูง ตับและตับอ่อนก็จะพยายามดึงระดับน้ำตาลลง กระบวนการนี้แหละที่ทำให้เราง่วง ที่เขาบอกว่าหนังท้องตึงหนังตาก็หย่อนนี่แหละ น้ำตาลเราจะสูงหลังกินข้าวเท่านั้น แต่ถ้าหนังตาเราหย่อนบ่อยๆ แม้กระทั่งยังไม่ได้กินข้าว นั่นก็แสดงว่า ขนาดยังไม่กินข้าวระดับน้ำตาลก็ยังสูง แสดงว่า เรากำลังจเป็นโรคเบาหวานแล้วหละ
  4. น้ำหนักเริ่มลด กินยังไงก็ไม่อ้วน อาการนี้นอกจากเป็นไทรอยด์แล้ว ยังอาจเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าเกณฑ์ก็ได้นะครับ อาการนี้เกิดจากร่างกายเราได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ร่างกายเราจึงพยายามเผาผลาญกล้ามเนื้อ เพราะเผาผลาญง่ายที่สุด กล้ามเนื้อเราจะเริ่มลีบ แต่อีกทางหนึ่งเมื่อสารอาหารในร่างกายเราน้อย ก็ส่งผลให้ร่างกายพยายามดูดซึมน้ำตาลมาใช้แทนสารอาหารแบบมากขึ้นๆๆ น้ำตาลในเลือดจึงมักมีเกณฑ์ที่สูง ข้อสังเกตอาการนี้มีอีกอย่างหนึ่งคือ แม้วันนั้นเราจะไม่กินเนื้อเลยแต่ปัสสาวะเราก็มีกลิ่นฉุนเหมือนกินเนื้อเยอะๆ พอกล้ามเนื้อถูกใช้หมด ร่างกายจะเริ่มสะสมน้ำตาลในร่างกายในรูปไขมัน ตัวเราก็จะเลยอ้วนเผละ 
  5. มือเท้า เป็นเหน็บชาง่าย มีอาการชาแป๊บๆ ก็เกิดจากเซลล์ขาดสารอาหารนั่นเอง เพราะในน้ำเลือดมีภาวะข้นเหนียวด้วยน้ำตาลสูง จนระบบเลือดไหลเวียนได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ทางแก้เริ่มแรกคือพยายามกินน้ำให้มากๆ จะผ่อนอาการนี้ได้

และนี่แหละครับ 5 ข้อสังเกตอาการที่จะทำให้เราเดาได้ว่าเราอาจจะเริ่มมีอาการน้ำตาลในเลือดสูงแล้ว หากปล่อยไว้ ใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไม่ดูแลตัวเองต่อไปนานๆ เข้า ร่างกายเราจะจบที่โรคเบาหวาน ในภาค 1 และจะพบเจอกับโรคเรื้อรังแทรกซ้อนต่างๆ ในภาคต่อไปไม่รู้จบ ถึงวันนั้นหละก็แม้จะดูแลตัวเองดีขนาดไหนก็อาจจะสายเกินไปที่จะกลับตัวแล้วก็เป็นได้ ฉะนั้นอย่าชะล่าใจนะครับ

 

About admin

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

*