สมุนไพรจีน โหย่งเหิง โอกาสดีๆ ที่มีไม่รู้จบ
เมื่อเราพูดถึงโรคเบาหวาน ก็นับเป็นอีกโรคหนึ่งที่หลายคนกลัวเหมือนกัน เป็นโรคที่ติด 1 ใน 5 โรคร้ายที่คร่าชีวิตเราได้เลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันมีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้นเฉลี่ยแล้ว 2 แสนคนต่อปี และเสียชีวิตถึงปีละ 8,000 คน นอกจากนี้ยังมีคนไทยที่เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานเพิ่มอีก 7.7 ล้านคน ซึ่งคาดว่ากลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานในอัตราเพิ่มขึ้น 5-10 % ต่อปี
โรคเบาหวานอาจดูไม่อันตราย แต่เป็นโรคใสๆ ที่ร้ายกาจมาก เพราะเพื่อนมันเยอะที่พร้อมจะมาซ้ำยามที่เราป่วยเพราะน้ำตาลในเลือดสูง
ณ ตอนนี้ถ้าเรายังไม่มั่นใจว่ากำลังเป็นกลุ่มเสี่ยงรึเปล่า ลองไปตรวจเลือดดูครับ ถ้าค่าระดับน้ำตาลในเลือด (ค่า FBS หรือ FPS) สูงกว่า 126 อันนี้หละใช่เลย หรือมีค่าน้ำตาลสะสม (HbA1C) มากกว่า 6.5 ก็โดนเข้าให้เหมือนกัน ถ้ายังไม่ถึงแต่ใกล้แล้ว อันนี้ต้องเตรียมตัวถ้าปล่อยไว้นานๆ โรคเบาหวานเรื้อรังจะถามหาแน่นอน
สำหรับประเภทของโรคเบาหวานที่แบ่งแยกจากสาเหตุการเกิดที่อยู่ 4 ประเภทครับ คือ
- เกิดมาโดยกำเนิด มันมีบางกรณีที่ร่างกายของเรามีความบกพร่องบางอย่าง มีตับไม่ค่อยแข็งแรง เป็นความบกพร่องมาตั้งแต่เกิด เซลล์ตับอ่อนทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเต็มที่ หรือมีเซลล์ไม่ครบอย่างใครเขา ทำให้ผลิตอินซูลินได้น้อยลง ซึ่งอินซูลินมีหน้าที่คือดักจับน้ำตาลในกระแสเลือดเพื่อส่งให้เซลล์นำไปใช้งาน เมื่ออินซูลินถูกผลิตได้น้อยลงแม้จะกินน้ำตาลในปริมาณที่ไม่มากก็ทำให้อัตราน้ำตาลในกระแสเลือดมี % ที่สูงเกินค่ามาตรฐานนั่นเอง ผมขอเรียกเคสแบบนี้ว่า เป็นเบาหวานมาตั้งแต่กำเนิด รักษายังไงก็ไม่หายต้องฉีดอินซูลินสังเคราะห์เข้าช่วย แก้ไขให้หายดีไม่ได้ ทำได้เพียงควบคุมน้ำตาลตลอดชีวิต แต่อย่าเพิ่มตกใจไป มีไม่มากคนที่จะมีโชคเช่นนี้
- เกิดจากสารกระตุ้นบางอย่าง (Secondery DM) เคสนี้เกิดจากสิ่งภายนอกที่เราต้องกินแล้วเกิดส่งผลต่อการทำงานของตับอ่อน หรือมีการแพ้ของร่างกายของเราเพราะได้รับสารบางอย่าง เช่น การกินยาเคมีบางชนิด การรับยาสเตียรอย หรือการรับการรักษาบางอย่าง มันอาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่
- เกิดจากการตั้งครรภ์ บางครั้งผมก็รู้สึกเลยว่าร่างกายเรามันช่างซับซ้อนนัก ขนาดรถบางคันมีส่วนประกอบไม่กี่พันชิ้น หรือไม่กี่หมื่นชิ้น ยังซ่อมยากเลย แต่ร่างกายเราเนี่ยมีเซลล์ร่วมกันทั้งสิ้น 60 -70 ล้านล้านเซลล์ เชียวนะ มันซับซ้อนมาก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่รุนแรงมากอีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือการตั้งครรภ์ ทุกอย่างถูกเซตใหม่เยอะมาก บางคนไม่เคยเป็นเบาหวานมาก่อน ก็ดันมาเป็นขึ้นขณะตั้งครรภ์ ถ้าเกิดใครเป็นตอนตั้งครรภ์ เด็กจะตัวใหญ่มาก การทำคลอดต้องผ่าเท่านั้น คลอดตามธรรมชาติเสี่ยงมากว่าไหล่จะติด บางคนคลอดแล้วอาการเบาหวานหาย บางคนก็ดังไม่หายซะงั้น มันซับซ้อนมากๆ เคสนี้ก็มีไม่บ่อยนักหรอกครับ
- ข้อนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นป่วยเป็นโรคเบาหวานมากที่สุดถึง 90% นั่นก็คือ จากพฤติกรรมของเราเอง ผมไม่ค่อยให้น้ำหนักเรื่องติดต่อทางกรรมพันธุ์สักเท่าไหร่ นอกจากเป็นตามข้อ 1 แต่มันน้อยมากๆ ที่เกิดบ่อยก็คือพฤติกรรมนี่แหละ สำหรับใครที่บอกว่า พ่อแม่เป็นโรคเบาหวานแล้วลูกจะเป็น 90% ไม่ได้เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่เกิดจาการถ่ายทอดทางพฤติกรรมต่างหาก เรามักชอบอาหารรสฝีมือแม่กันใช่ไหม แม่กินหวานติดหวานมีหรือที่ลูกจะไม่ติด นี่แหละครับถ่ายทอดทางพฤติกรรม ไม่ต้องพ่อแม่หรอก ขนาดเพื่อนเราที่สนิทชนิดที่ไปไหนไปกันอยู่ตลอด ถ้าเพื่อนคนนั้นเป็นเบาหวาน เราก็จะเป็นเพราะพฤติกรรมมันติดกันได้ทางความคิด คิดเหมือนกันจึงกินเหมือนกัน เป็นโรคก็จะป่วยเหมือนกันนั่นเอง ผมจึงให้ข้อ 4 เป็นข้อยอดฮิตมากๆ สำหรับสาเหตุของการเป็นโรคเบาหวาน
สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวานด้วยพฤติกรรมก็มีหลายสาเหตุมากซึ่งคุณสามารถเข้าชมในหมวดหมู่นี้ได้ครับ สำหรับจุดนี้ผมขอเล่าคร่าวๆ คือ จากการกินและกิจกรรมประจำวัน เช่น กินข้าว/แป้ง/น้ำตาล มากเกินไป เกิดไขมันสะสมมากจะเป็นโรคอ้วน พฤติกรรมการพักผ่อนที่น้อยเกินไป ไม่ชอบเคลื่อนไหวร่างกายรวมถึงออกกำลังการด้วย และดื่มเหล้าสุรามากเกินไป
ฉะนั้นหากจะควบคุมโรคเบาหวานได้นั้น เราต้องรู้จักการควบคุมอาหาร อาหารทุกประเภทมีประโยชน์ แต่ที่เกิดโรคเพราะการกินบางอย่างมากเกินไป กินบางอย่างน้อยเกินไป ต้องกินให้พอดีๆ และหลากหลาย ออกกำลังพยายามเคลื่อนไหวอย่าขี้เกียจกระตุ้นการเผาผลาญ อย่าปล่อยให้ตัวเองอ้วนดื้ออินซูลิน กินยาควบคุมเป็นประจำในรายผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานแล้ว ละเลิกสุรายาเมาเพื่อชะลอการทำลายตับ (อวัยวะที่ดูแลระดับน้ำตาลในกระแสเลือด) และอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอตับอ่อนจะได้พักผ่อน เท่านี้ก็ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ในระดับหนึ่งแล้วครับ ประกอบกับการสร้างสร้างเซลล์ตับ ตับอ่อน แต่ถ้ายังปล่อยไว้ไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง เตรียมตัวเลือดข้นจนคั่งค้างที่ตากลายเป็นเบาหวานขึ้นตา, น้ำตาลเป็นพิษจนไตวาย นะครับ
ถ้าหายแล้วก็อย่าลืมควบคุมอาหารด้วยนะครับ ถ้ากลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่วายกลับไปเป็นโรคเบาหวานเหมือนเดิม
