น้ำผลไม้ มีประโยชน์จริงไหม

หลายคนอาจคิดว่า การดูแลสุขภาพ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการดื่มน้ำผลไม้ กินผลไม้ เพื่อรับวิตามิน เกลือแร่แบบธรรมชาติ ก็เลยเลือกซื้อน้ำผลไม้มาติดบ้านไว้เพื่อทานแทนน้ำ หรือทานแทนน้ำอัดลม

สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟัง นั่นคือการกินผลไม้ห้ได้ประโยชน์มากที่สุด

การกินผลไม้นิยมทานกันแบบ 2 ประเภทหลักๆ 

1.กินผลไม้สด นับเป็นการกินผลไม้ที่เป็นไปตามธรรมชาติมากที่สุด  และได้ประโยชน์สูงสุดด้วย เพราะมีทุกอย่างครบถ้วน และเราก็จะถูกจำกัดไม่ให้กินมากเกินไปด้วยเพราะจะรู้สึกอิ่มไว้ เราจะได้แบบพอเหมาะพอเจาะเลย สำหรับการกินผลไม้ที่ให้ได้ผลดีมากที่สุด คือผลไม้ที่เด็ดออกจากต้นไม่เกิน 3 วัน เพราะวิตามิน เกลือแร่ จะยังมีอยู่มาก แต่หลังจากนั้นยิ่งนานไป วิตามินจะยิ่งลงไปเรื่อยๆ เพิ่มเติมคือความหวานและแป้ง ส่วนผลไม้แปรรูป อันนี้ถือว่ามีวิตามินน้อยสุด แต่มีผลไม้บางชนิด ถ้าแห้ง ถ้าถูกความร้อน จะแตกคุณค่าทางอาหารได้มากกว่า 

2. น้ำผลไม้ เป็นการประยุกต์ให้กินง่ายมากขึ้น จากอาหารกลายเป็นเครื่องดื่ม ทำให้เรากินได้ง่ายขึ้นและกินไม่มากขึ้น ย่อยง่ายขึ้นเพราะมันถูกย่อยให้เนื้อละเอียด

น้ำผลไม้ มีการแบ่งตามกรรมวิธีนิยมอยู่ 3 ประเภท

1. น้ำผลได้ปั่น จับผลไม้มาปั่นเลย ก็จะได้คุณค่าทางอาหารเหมือนกับกินสด แต่ส่วนใหญ่คนปั่นอยากให้อร่อยมักจะใส่อะไรบางอย่างรสชาติ เช่น น้ำหวาน เกลือ แค่น้ำตาลในตัวผลไม้เองก็มากพอแรงแล้ว ยังใส่เพิ่มไปอีก น้ำตาลในน้ำผลไม้ 1 แก้วจึงมีมาก และที่สำคัญ เมื่อทำเป็นน้ำผลไม้เราจะกินผลไม้ได้มากขึ้น ซึ่งร่างกายของเรามักมีลิมิตในการรับวิตามินและเกลือแร่ต่อวันอยู่ ส่วนที่เหลือก็ขับทิ้งแต่น้ำตาลที่อยู่ในนั้นไม่ถูกขับออกนะ และจะสะสมในร่างกายของเรา
2. น้ำผลไม้แยกกาก ด้วยนวัตกรรมที่มีมากขึ้นทำให้มนุษย์สามารถทำน้ำผลไม้แยกกากได้ กินง่าย ได้น้ำผลไม้เต็มๆ เหมือนจะมีประโยชน์ แต่มีโทษอยู่นะ เพราะธรรมชาติรู้ดีว่าผลไม้ มันมีน้ำตาลทำให้เนื้อหวาน และหากน้ำหวานในผลไม้เข้าสู่ร่างกายมากเกินไปจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย ธรรมชาติจึงผลิตให้ใยอาหารทำหน้าที่ดูดซับน้ำตาลและขับถ่าย แต่เมื่อเราแยกน้ำกับกากออกจากกันเพื่อดื่มน้ำน้ำเท่า เหมือนกับเราดื่มน้ำตาลแต่ไม่มีตัวดูดซับน้ำตาล น้ำตาลจึงเราสู่ร่างกายมากเกินไป แทนที่จะได้ประโยชน์ด้วยวิตามิน แต่กับเสี่ยงเป็นเบาหวานได้
3. น้ำผลไม้สำเร็จรูป อันนี้เหมือนกับน้ำผลไม้แยกกากเลย และที่ยิ่งร้ายกว่านั้น คือ เรารู้ได้อย่างไรว่าน้ำผลไม้นั้นมีแต่ผลไม้จริงๆ หรือเป็นการแต่งสีและกลิ่นกันแน่นะ อันนี้ผมไม่รู้ แต่ที่รู้แน่ๆ มันไม่มีกากใยคอยบล็อคน้ำตาล แถมพอสังเกตข้างกล่องช่างน่าตกใจ มีส่วนผสมของน้ำตาลประมาณ 17 กรัม ป๊าด ดื่มน้ำผลไม้ 1 กล่อง เหลือประมาณน้ำตาลที่ กินได้ในวันนั้น แค่ 7 กรัมเอง น้ำตาลนี้เป็นน้ำตาลที่ใส่เพิ่มนะ ไม่ได้รวมน้ำตาลที่อยู่ในผลไม้ตามธรรมที่คั้นมาอีกนะ 

นี่คืออีกสาเหตุที่ทำให้เรากินน้ำตาลมากกว่ามาตรฐาน บ่อเกิดโรคเบาหวาน และโรคเสื่อมร้ายๆ อีกมากมาย

นี่คือข้อมูลที่อยากให้คุณได้รู้ก่อนตัดสินใจดูแลสุขภาพตัวเองด้วยวิธีการกินผลไม้ในรูปแบบต่างๆ

ผมบุรินทร์ จันวิไชย ยินดีเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ

เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างธรรมชาติ ด้วยการแพทย์ทางเลือกควบคู่แผนปัจจุบันสมุนไพรจีนโหย่งเหิง คลิก: BurinOnline.com/Yong