กล้วย นับเป็นผลไม้ที่เราหาซื้อกินได้ง่ายมากๆ มีทุกบ้าน จนกลายเป็นผลไม้ราคาไม่ได้แพงมากในเมืองไทย แต่เชื่อไหมครับว่าในต่างประเทศ ราคาแพงพอสมควรเลยทีเดียว เพราะเขารู้ว่าการกินกล้วยทุกวัน ร่างกายเราจะมีสุขภาพดี เพราะระบบทางเดินอาหารถือเป็นระบบที่สำคัญมาก หากระบบนี้ดี ร่างกายเราก็จะดีมากขึ้น
กล้วย เป็นผลไม้ที่หวานอร่อยแบบมีน้ำตาลน้อย โดยเฉพาะกล้วยน้ำว้า 1 ลูก มีน้ำตาลไม่ถึง 1 ช้อนชา เราสามารถกินได้มากถึง 12 ลูก ต่อวัน ซึ่งในกล้วยนี้มีคุณค่าทางอาหารหลากหลายและครบครัน ชนิดที่ว่าหากเราเกิดหลงป่าไม่มีอาหารกินเลย หากเจอกล้วยน้ำว้าในป่าสักเครือหละก็ เอาไปเป็นเสบียงชั้นเลิศได้สบายๆ และจะไม่มีอาการขาดสารอาหารเลย ผู้คนสมัยก่อน พอเวลาเดินทางไกลหรือเดินทัพจึงมักกินกล้วยเสมอ
คุณค่ากล้วยน้ำว้า ใช้ทดแทนนมแม่ได้ ใครที่แคลเซียมต่ำ โพแทสเซียมน้อยเนื่องจากกินสุรามากๆ หรืออายุมาก ลองกินกล้วยทุกวันดู อาการจะดีขึ้นมากเลยทีเดียว
ใครที่กำลังจะออกกำลังกายระยะไกล ไตรกีฬา ลองพกกล้วยสัก 2 ลูก กับน้ำมะพร้าวเป็น sport drink จะช่วยคุณได้
กล้วยที่เราสามารถกินได้จะมีอยู่ช่วย 4 วัย
ช่วงกล้วยดิบ เขียว – มันช่างฝาดซะเหลือเกิน อันนี้ให้กินเป็นยา รักษากระเพาะและระบบทางเดินอาหาร แก้ท้องเสียได้ดี เอามาอบ ตากแห้งให้กรอบแล้วบดชงดื่ม มีเทนนินมาก ช่วยเคลือบกระเพาะ ลำไส้
ช่วงกล้วยห่าม – กึ่งๆจะสุก แต่พรุ่งนี้จะสุกเหลืองทั้งลูก วัยนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดของการกินกล้วย รสชาติหวานที่โคน ฝาดนิดๆ ที่ปลาย ฉะนั้นจะกินให้อร่อยต้องกินจากปลายเรียวก่อนแล้วค่อยไล่ลงมาที่โคน มันจะฝาดต้นแล้วจบด้วยหวาน ช่วงนี้คุณค่าทางอาหารจะดี และน้ำตาลไม่มากเกินด้วย คนที่ควบคุมน้ำตาลกินได้ดีเลยไม่ต้องห่วง แถมมันจะช่วยเรื่องนี้ด้วยเพราะจะมีแพกตินและเส้นใยคอยบล็อกแป้งและน้ำตาล และยังมีโพแทสเซียมในปริมาณเพียงพอให้ชดเชย เหมาะสำหรับนักกีฬา คนที่ท้องเสีย ผู้ดูแลตัวเอง
ช่วงสุก เหลือง – วัยที่หลายคนชอบกินเพราะมันอร่อย หวาน กินง่าย สามารถดูแลเรื่องระบบขับถ่ายได้ แก้ท้องผูก มีแพกตินสูง ดูแลระบบขับถ่าย มีใยอาหารที่เป็นอาหารจุลินทรีย์มรดีในลำไส้ แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือหวานน้ำตาลมาก เพิ่มเป็น 2 เท่าจากเมื่อวานนี้เลย
ช่วงงอม – โดยปกติวัยนี้เรามักจะโยนให้นกกิน เพราะมันแหยะๆ หมดแล้ว แต่เชื่อไหมครับ ตอนเปลือกดำๆ นี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก เพิ่มภูมิต้านทาน ลดเชื้อมะเร็ง เพิ่มภูมิต้านทานโรค เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาว ต้านมะเร็ง ยิ่งงอม ยิ่งมีสารอนุมูลอิสระมาก แต่น้ำตาลก็มากไม่แพ้กันนะ
ที่สำคัญ หากเราต้องการดึงคุณค่าทางอาหารจากกล้วยให้มากขึ้น ต้องนำไปถูกความร้อน จะทำให้ดูดซึมได้ดีกว่า 4 เท่าเลยทีเดียว
กินกล้วยแล้วได้อะไร (กล้วยน้ำว้า ถ้ากล้วยพันธุ์อื่นอาจไม่ได้ตามที่ผมบอกนะครับ)
- มีน้ำตาลน้อย ไม่ถึง 1 ช้อนชา (คน 1 คนกินน้ำตาลได้ 6 ช้อนชาต่อวัน หรือกล้วน 12 ลูก)
- มีการใยอาหารสูง แก้ท้องผูก ท้องเสีย รักษาสมดุลระบบย่อยอาหารและขับถ่าย ช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร ด้วยสารแพกติน
- กินหลังอาหารเย็นทำให้นอนหลับสบาย ด้วยสโลโตนิน
- มีคุณสมบัติทดแทนน้ำนมแม่ได้ มีโปรตีน คาร์โฮเดรต วิตามิน เกลือแร่ ไขมัน ครบถ้วน
- ช่วยให้อ่อนเยาว์ อายุยืนด้วยทิฟโตแฟน
- มีแคลเซียม โพแทสเซียม แมงกานีส สังกะสี เหล็ก แก้ความดัน เลือดจาง ช่วยผลิตเลือดแดง เสริมสร้างกระดูก ถ้ากินกล้วยที่โดยความร้อนจะได้แคลเซียมเพิ่มขึ้น 4 เท่า และกลายเป็นคุณค่าทางสมุนไพร
- มีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าแอปเปิล 5 ลูก วิตามิน A B1 B6 B12
- ลดอาการปวดเมื่อยเรื้อรังจากการทำงาน
- ดูแลอาการโฟแทสเซียมต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรงที่เกิดจากดื่มสุรามากเป็นประจำ เหงื่อออกมาก ไทรอยด์เป็นพิษ ไตวายเรื้อรัง
- ลดภาวะกรดในเลือด
เทคนิคการเลือกซื้อกล้วย ควรซื้อ 1 หวีที่มี 14 – 16 ลูก (เครือกลาง) สารอาหารมีมากที่สุด ให้กินตอนห่าม เพราะถ้าหินตอนสุกน้ำตาลจะเพิ่มขึ้น 2 เท่า
ผมบุรินทร์ จันวิไชย ยินดีเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ
เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างธรรมชาติ ด้วยการแพทย์ทางเลือกควบคู่แผนปัจจุบันสมุนไพรจีนโหย่งเหิง คลิก: BurinOnline.com/Yong