ตลอดระยะเวลาที่ผมได้รู้จักกับอาการกระดูกทับเส้น มักจะพบวิธีการรักษา เช่น ให้กินยา กายภาพบำบัด ฯลฯ 

ซึ่งแต่ละวิธีก็ทำให้อาการดีขึ้น บางครั้งที่พบเหตุการณ์รักษาหายขาดไปแล้ว แต่กลับต้องมาเป็นอาการกระดูกทับเส้น อีกครั้ง 

จนหลายคนมีความเข้าใจเกี่ยวกับอาการกระดูกทับเส้น ว่า มันรักษาไม่หาย ทำได้เพียงแต่ประคับประคองอาการ หรือเชื่อไปว่า มันคือโรคจากเวรกรรม 

จนกระทั่ง 4 ปี ที่ผ่านมา 
ผมได้มีโอกาสรู้จักความรู้เกี่ยวกับการดูแลตัวเองควบคู่กับการรักษาอาการกระดูกทับเส้น
ด้วยการพิชิตอาการจากต้นทาง แก้ไขฟื้นฟูร่างกายในจุดที่เป็นต้นเหตุบ่อเกิดอาการกระดูกทับเส้น
หรือที่เรียกว่า "ธรรมชาติบำบัด ควบคู่การแพทย์"

โรคกระดูกทับเส้น เป็นโรคที่เกิด "หมอนรองกระดูก" มีปัญหา สึกถูกทำลายจนชำรุด ทำให้กระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทแนวกระดูกสันหลัง
หมอนรองกระดูก ช่วยให้หลังมีความยืดหยุ่นขณะเคลื่อนไหวและปกป้องกระดูก หากมีอาการกระดูกเสื่อม ก็จะทำให้หมอนรองกระดูกแตก เส้นทำให้เจ็บปวดและไม่สบายตัว เจ็บบริเวณแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ ปวดร้าวลงขา รู้สึกชาหรือเสียวบริเวณส่วนที่เส้นประสาทถูกกดทับ หรืออาจเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง 
สำหรับอาการปวดกระดูกที่เกิดจาก หมอนรองกระดูกถูกทำลาย ทำให้ฐานกระดูกทรุด กระดูกผิดรูปหรือเอียงจนไปทับเส้น
ซึ่งอาการหมอนรองกระดูกถูกทำลายเกิดจาก ร่างกายผลิตคอลาเจนได้ไม่เพียงพอ
โดยปกติร่างกายเราจะผลิตคอลาเจนได้เองและเพียงพอต่อความต้องการ ซึ่ง 80% จะอยู่ที่ผิวและหมอนรองกระดูก 
แต่พอเราเริ่มอายุเพิ่มขึ้น เริ่มตั้งแต่ 25 ขึ้นไป ร่างกายจะมีประสิทธิภาพในการผลิตคอลาเจนได้น้อยลง ปีละ 1%

ทำให้เรามีปัญหาเรื่องผิวพรรณ และข้อต่อกระดูกเสื่อมไวกว่าตอนเด็กๆ ซึ่งการเพิ่มคอลาเจนที่ได้จากการทา ก็เพิ่มได้แค่ผิวชั้นนอก แต่ไม่สามารถลงลึกถึงระบบกระดูกได้
ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่กระตุ้นให้ร่างกายสมดุลและควรทานคอลลาเจนเข้มข้น พร้อมโปรตีน วิตามิน C E A เพิ่มเติม เพื่อเสริมสร้างเติมเต็ม และสร้างประสิทธิภาพของคอลาเจนในร่างกายอีกด้วย

This is the bottom slider area. You can edit this text and also insert any element here. This is a good place if you want to put an opt-in form or a scarcity countdown.