สมุนไพร กับ โรคเก๊าท์ – สมุนไพรจีน โหย่งเหิง http://burinonline.net โอกาสดีๆ ที่มีไม่รู้จบ Fri, 10 Mar 2023 04:58:49 +0000 th hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.1 กินดีมีสุข : หน่อไม้มีประโยชน์ กินผิดโทษถึงตาย http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%a3/ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%a3/#respond Tue, 07 Jul 2020 10:23:26 +0000 http://burinonline.net/?p=7316

หน่อไม้ นับเป็นอาหารที่มีกากใยสูง มีสารอาหารมากมีประโยชน์ แต่หน่อไม้ก็มีสารไซยาไนด์สูงมาก กินสดไม่ได้ โทษถึงตาย หากจะกินต้องทำให้สุกดีๆ ก่อน นอกจากนี้คนเป็นเกาท์ก็อย่ากินมาก เพราะหน่อไม้มีสารพิวรีนสูง กินมากๆ จะทำให้ร่างกายมีกรดยูริกมากจนเกิดโรคเกาท์ขึ้นได้

]]>
http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%82-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%9b%e0%b8%a3/feed/ 0
รางจืด สมุนไพรขับล้างสารพิษ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87/%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b7%e0%b8%94-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b2/ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87/%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b7%e0%b8%94-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b2/#respond Fri, 20 Sep 2019 07:53:46 +0000 http://burinonline.net/?p=2309

ใบรางจืด สมุนไพรไทย ที่คนไทยใช้รักษาตัวเองมานานหลายรุ่นมากๆ
หากมองผิวเผิน ใบรางจืดจะมีลักษณะคล้ายกับใบย่านางมากๆ เพียงแค่ใบจะบางกว่าใบย่านาง ลักษณะต้นเป็นไม้เลื้อย

หากถามถึงสรรพคุณหลักๆ ที่หลายๆ คนก็รู้กัน ของรางจืด นั่นก็คือการ
ขับล้างสารพิษ
สิ่งนี้ถือเป็นสรรพคุณหลักเลย ถ้าใครรู้ว่าคืนนี้กำลังจะเมาและไม่ต้องการแฮงค์ในตอนเช้า ให้กินรางจืด ครับ จะช่วยไม่ให้แฮงค์ และลดภาวะตับถูกทำลายเพราะพิษสุรา
หรือใครที่จำเป็นต้องกินอาหารที่มีสารมากหรือมีพิษมาก เช่น หน่อไม้ แกงป่า เขาก็จะใส่รางจืดไปเพื่อดับสารกรดยูริกด้วย
จากสรรพคุณนี้เองที่ทำให้เราๆ ทำเป็นยาอัดเม็ดแคปซูลหลายยี่ห้อมาก

จากการวิจัยของคณะเภสัชกรรม จุฬาฯ เคยวิจัยว่า ใบรางจืดช่วยป้องกันเซลล์ตับตายจากพิษสุราในหลอดทดลอง (แต่เอาจริงๆ เลิกกินเหล้าไปเลยได้ผลชัวร์กว่านะ)
จากการวิจัยของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศ เคยวิจัยว่า ใบรางจืดช่วยบำรุงตับ ลดแอลกอฮอร์ในลมหายใจ

ใบรางจืด มีสรรพคุณทางยา ดังนี้
– เถา ราก ช่วยแก้ร้อนใน บำรุงสตรีหลังคลอด บำรุงประจำเดือน
– ใบ ราก ช่วยถอนพิษไข้ พิษสารทุกชนิด ขับสารพิษออกจากร่างกาย แก้เมาค้าง พิษสุรา
– ปรับสภาพร่างกายไม่ให้ร่างกายมีภาวะเป็นพิษ ต้านมะเร็ง ลัความเสี่ยงเซลล์กลายพันธ์ุ
– ลดการอับเสบของเซลล์ต่างๆ
– ขับล้างสารสะสมส่วนเกิน น้ำตาลในเลือด กรดยูริก

ใบรางจืด จึงนับเป็นยาถอนพิษชั้นเลิศ ใช้ได้ทั้งคนและสัตว์

ข้อความระวัง
– รางจืดมีสรรพคุณขับล้างสารทุกอย่าง รวมแม้กระทั่งสารอาหารจากยา ฉะนั้นหากกินยา แล้วกินรางจืด ยานั้นจะถูกขับล้างไปหมด หากจะทานรางจืดกับยา ต้องให้ห่างกัน 2 ชั่วโมง
– ถ้ากินบ่อยเกินไป ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ คนเป็นโรคเบาหวานต้องกินอย่างระวัง
– ถ้ากินต่อเนื่องนานๆ จะทำให้ระบบเลือด ระบบตับ ระบบไต ทำงานผิดปกติ เสียสมดุล
– อย่ากินมากเกินไป จะมีสารสะสม ให้กิน 2-3 g ต่อวัน หรือไม่เกิน 500 mg
– ฉะนั้นต้องกินเป็นครั้งคราว และไม่ควรติดต่อกันเกิน 2 สัปดาห์

การกินที่ปลอดภัยมาที่สุดคือ การกินให้เป็นอาหาร
รางจืดไม่ใช่ยารักษาโรค
กินให้เป็นอาหาร ให้อาหารนั้นเป็นยา

]]>
http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87%e0%b8%87/%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%88%e0%b8%b7%e0%b8%94-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b2/feed/ 0
ใบย่านาง สมุนไพรล้างพิษ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a9/ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a9/#respond Fri, 20 Sep 2019 05:28:44 +0000 http://burinonline.net/?p=2298

ใบย่านาง ผักเพื่อทำครัวทำอาหารของคนไทยมานานช้านานมาก
ด้วยความชาญฉลาดของภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่รู้สุดยอดสรรพคุณของใบย่านาง

จึงไม่แปลกใจเลยที่ทำให้อาหารบางอย่างจะมีสูตรว่าต้องใส่ใบย่านางด้วยถึงจะอร่อย
โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนผสมของหน่อไม้
จริงๆ แล้วการใส่ใบย่านางไม่ใช่เพียงเพิ่มความอร่อย แต่คนโบราณรู้ว่าในหน่อไม้มีสารพิวรีนมาก กินเยอะๆ จะทำให้ปวดกระดูกเพราะร่างกายจะเกิดกรดยูกริคมาก
แม่บ้านจึงใส่ใบย่านางเข้าไปเพื่อดับสารส่วนเกินนี้ยังไงหละครับ ทั้งแกงเลียง แกงเปอะ ซุปหน่อไม้

ใบย่านาง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น รูปร่างจะคล้ายๆ กับใบรางจืด มีสรรพคุณ ดังนี้
– ลดความร้อนในร่างกาย
– ใช้ดับร้อน ผ่อนไข้ ปรับสมดุล และช่วยให้หลับสบาย
– มีสารต้านอนุมูลอิสระมาก ลดความเสื่อม ชะลอวัย และยับยั้งมะเร็ง
– ช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่สึกหรอ
– ช่วยฟื้นฟูเซลล์ ตับ ไต หัวใจ
– เพิ่มภูมิต้านทาน
– รักษาระดับน้ำตาล และสารต่างๆ ในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวาน เก๊าท์
– ต่อต้านกรดยูริค
– เป็นยาต้านพิษ แก้แพ้แบบธรรมชาติ
– รักษาสมุลการหลั่งอินซูลิน เพราะทำให้ร่างกายเย็นลง จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตอินซูลินเพื่อเผาผลาญน้ำตาลได้
– ผสมรักษาโรคผิวหนัง ลดอักเสบ ดูดขับสารพิษ

ข้อควรระวัง
– อย่ากินมากเกินไปติดต่อกันนานๆ เพราะจะทำให้ร่างกายเย็นเกินไป ส่งผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดี จึงทำให้เกิดอาการชามือ เท้า ปวดหัว ท้องอืด นอนไม่หลับ หลับๆ ตื่นๆ ขับถ่ายผิดปกติ เบื่ออาหาร หน้ามืด ได้
– ผู้ป่วยโรคไตอย่ากินมาก เพราะมันทำให้ไตทำงานหนักขึ้น เพราะมีสารแม็กนีเซียมมาก ส่วนคนที่ไม่เป็นโรคไต ทานได้เพื่อบำรุงไต
– อย่าเชื่อว่าใบย่านางขับสารพิษแล้วกินจะต้องทุกวัน
– หากรู้สึกเย็นเกินไป ให้ทานกระชายเพื่อรักษาสมดุล

ใบย่านางนั้นมีประโยชน์ แต่หากทานมากเกินไปก็ไม่ดี
ทางที่ดีที่สุดคือกินให้เป็นอาหาร
และให้อาหารนั้นเป็นยาสำหรับเรา

]]>
http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b9%83%e0%b8%9a%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%87-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9e%e0%b8%b4%e0%b8%a9/feed/ 0
หญ้าปักกิ่ง กับ โรคมะเร็ง http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87/ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87/#respond Fri, 20 Sep 2019 04:54:55 +0000 http://burinonline.net/?p=2292

หญ้าปักกิ่ง เป็นหญ้าชนิดหนึ่ง พอดูตามชื่อแล้วหลายคนอาจจะเดาว่าน่าจะมาจากจีนปักกิ่งแน่ๆ เลย
แต่ไม่ใช่ครับ หญ้าปักกิ่ง ไม่มีในปักกิ่งนะครับ 555
หญ้าปักกิ่งมักขึ้นบริเวณภาคเหนือของไทย ลาว หรือฝั่งตอนใต้ของจีน เชื่อว่าเป็นสมุนไพรของชนเผ่าต่างๆ แถบสิบสองปันนา
ซึ่งชนเผ่าได้ใช้เป็นสมุไพรรักษาโรคมาหลายพันปี จนมีผู้นำมาขยายพันธุ์ต่อในประเทศไทย
หญ้าปักกิ่งเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นและจืด กินเป็นยาหรือกินเป็นผักเครื่องเคียงก็ได้

สำหรับนักสมุนไพร ต่างนิยมใช้หญ้าปักกิ่งในการดูแลสุขภาพ โดยนิยมใช้หญ้าปักกิ่งอายุ 3 เดือนขึ้นไปตอนที่ต้นแทงช่อดอก ดังนี้
– ช่วยล้างพิษและสารอาหารส่วนเกินที่สะสมในร่างกาย
– มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งมะเร็ง
– รักษาสมดุลในระบบทางเดินหายใจ
– รักษาสมดุลของร่างกาย ลดภาวะการเป็นพิษ ทำให้ลดโอกาสเสี่ยงที่เซลล์จะกลายพันธุ์เป็นโรคมะเร็ง เมื่อก่อนมีชมรมหญ้าปักกิ่งที่แจกจายพันธุ์หญ้าปักกิ่งให้ผู้ป่วยมะเร็งเอาไปปลูกกัน เพื่อรักษาสมดุลร่างกาย และล่าสุดคณะเภสัชกร ม.มหิดล ได้เก็บข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้ลองกินหญ้าปักกิ่ง พบว่าไม่เป็นพิษ ช่วยให้ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้น และยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งด้วย (ไม่ได้ฆ่ามะเร็ง แค่ยับยั้งการเติบโต – ยังไม่มีวิจัย มีเพียงข้อมูลของผู้ทดลองใช้เท่านั้น)
– รักษาโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันโรค เช่น ภูมิแพ้ แพ้ภูมิ สะเก็ดเงิน เพราะมีสารโพลีแซกคาไรด์ กระตุ้นภูมิและเม็ดเลือดขาว ให้ร่างกายแข็งแรง
– รักษาสมดุลอุณหภูมิในร่างกาย ลดร้อนใน มีฤทธิ์เย็น ช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องให้ยาเคมีบำบัด/ฉายรังสี มีร่างกายเย็นลงสบายตัวขึ้น

วิธีการกิน
– ให้นำหญ้าปักกิ่งสัก 3 ต้นต่อน้ำ 4 ช้อน/250CC คั้นเอาน้ำ ดื่มเช้าเย็น
– หรือจะต้มกับน้ำสัก 20 นาที
– หรือจะทำเป็นชาชงดื่มก็ได้
– ใส่ต้ม ผัด แกง ได้หมด

ข้อควรระวัง
1. อย่ากินติดต่อกันนานๆ ให้กินๆ หยุดๆ 7 วันกิน 4 วันหยุด เพื่อลดภาวะสารตกค้าง
2. ถ้าจะกินสดให้ล้างให้สะอาด ระวังพยาธิที่หลบอยู่ในใบหญ้าปักกิ่ง
3. กินสดระวังจะทำให้คันคอได้เพราะในใบมีผลึกแคลเซียมออกซิเลส ที่เป็นเข็มเล็กๆ ทำให้ระคายเคืองพอ รู้สึกร้อนๆ คอได้ ไม่มีอันตราย แค่จะทำให้รำคาญคอได้เท่านั้น
ถ้าใครไม่ซีเรียสก็กินสดได้ แต่ถ้ารำคาญนัก ก็ใช้วิธีการคือต้ม แล้วปล่อยให้เย็นและตกตะกอน ตักดื่มแต่น้ำใส่ๆ ก็จะลดอาการคันคอเวลากินได้

หญ้าปักกิ่ง เป็นสมุนไพรที่ช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรง ไม่ใช่ยารักษาโรคมะเร็ง
ฉะนั้นเราอยากให้กินให้เป็นอาหาร ไม่ใช่ยารักษาโรค
เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

]]>
http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b8%ab%e0%b8%8d%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%9b%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b9%88%e0%b8%87-%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b9%87/feed/ 0
แปะตำปึง จักรนารายณ์ สมุนไพรขับล้างสารพิษ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%b0%e0%b8%95%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%b6%e0%b8%87-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%93%e0%b9%8c-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8/ http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%b0%e0%b8%95%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%b6%e0%b8%87-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%93%e0%b9%8c-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8/#respond Fri, 20 Sep 2019 04:14:13 +0000 http://burinonline.net/?p=2284

ต้นแปะตำปึง นับเป็นสมุนไพรที่หลายๆ คนนิยมกินเพื่อบำรุงกำลัง
หากดูจากชื่อแล้วก็คงเดากันได้ว่า พืชล้มลุกชนิดนี้มาจากประเทศจีนแน่ๆ
ใช่ครับมันมีที่มาจากประเทศจีน มันเป็นสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กัน
ยอดนิยมจนหลายคนลงทุนไปเอามาจากเมืองจีน และเปลี่ยนชื่อให้ว่า
“จักรนารายณ์”

แปะตำปึง จักรนารายณ์ เป็นสมุนไพรครอบจักรวาล เพราะดูแลได้หลายโรค ด้วยคุณค่าทางอาหารที่มากมายส่งผลให้ร่างกายมีกำลังฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ จึงทำให้ร่างกายแข็งแรงและต่อสู้กับโรคได้

แปะตำปึง จักรนารายณ์ เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น สามารถกินสด หรือใส่ในแกงเป็นอาหารได้ ทั้งใบ ทั้งต้น
แปะตำปึง จักรนารายณ์ มีสรรพคุณทางยาช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย ดังนี้
– รักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
– รักษาระดับความดันโลหิต
– ดูแลสายตา พักสายตา
– รักษาสมดุลการขับถ่าย รักษาริดสีดวง
– ดูแลระบบทางเดินหายใน ภูมิแพ้ หอบหืด
– ช่วยล้างพิษ ขับสารส่วนเกินสะสมในร่างกาย ช่วยฟอกเลือดและน้ำเหลือง แก้เลือดจาง แก้เก๊าท์
– ช่วยบำรุงทางเดินอาหาร ขับลมในช่องท้อง รักษาโรคกระเพาะ
– ปรับสมดุลระดับความร้อนในร่างกาย แก้ร้อนใน
– ปรับระดับฮอร์โมน ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งในอวัยวะเพศ
และยังสามารถแก้โรคผิวหนังด้วยการตำคั้นแล้วทาในจุดที่อักเสบงูสวัส เริม ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย โดยผสมกับเหล้าขาวแล้วพอก

อย่าลืมนะครับ สมุนไพรแม้จะมีประโยชน์ แต่หากกินมากเกินไปก็มีโทษได้
ทางที่ดี ควรกินให้เป็นอาหาร
และกินอาหารให้เป็นยา

]]>
http://burinonline.net/%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%9e%e0%b8%a3%e0%b9%83%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7/%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%b0%e0%b8%95%e0%b8%b3%e0%b8%9b%e0%b8%b6%e0%b8%87-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%93%e0%b9%8c-%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%b8/feed/ 0
เก๊าท์ รู้จักเพื่อพิชิตโรค http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b9%8c/ http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b9%8c/#respond Tue, 07 May 2019 15:43:37 +0000 http://burinonline.net/?p=665 เก๊าท์ เกิดจากร่างกายมีการผลิตกรดยูริคมากเกินไปจนไปคั่งค้างอยู่ในส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะตามข้อกระดูกต่างๆ ทำให้เราเกิดอาการเจ็บปวด

กรดยูริค มาจากไหน

กรดยูริคเกิดจากร่างกายมีกระบวนการใช้และขับถ่ายสารพิวรีน ซึ่งกระบวนการนี้เกิดจากร่ากายสลายกล้ามเนื้อนั่นเอง ฉะนั้นสารพิวรีนจึงเกิดได้ประมาณ 2 อย่างใหม่ๆ

  1. อาหารการกิน อาหารที่เรากินบางอย่างมีสารพิวรีน ทั้งพืชและสัตว์ แต่ส่วนมากจะมีในเนื้อสัตว์มากกว่ามากๆ เช่น

อาหารที่ควรงด (มีพิวรีนสูง) ได้แก่ เครื่องในสัตว์ น้ำเกรวีกะปิยีสต์ ปลาดุกกุ้งหอยปลาอินทรีย์ปลาไส้ตัน ปลาซาร์ดีนไข่ปลา ชะอมกระถินเห็ดถั่วแดงถั่วเขียวถั่วเหลืองถั่วดำ สัตว์ปีก น้ำสกัดเนื้อซุปก้อน

อาหารที่ควรลด (มีพิวรีนปานกลาง) ได้แก่ เนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปลา อาหารทะเล – ถั่วลิสงถั่วลันเตา หน่อไม้หน่อไม้ฝรั่งดอกกะหล่ำผักโขม,สะตอ,ใบขี้เหล็ก, ข้าวโอ๊ต, ใบขี้เหล็ก สะตอ ผักโขม

อาหารที่รับประทานได้ตามปกติ (มีพิวรีนน้อย) ได้แก่ ถั่วงอก,คะน้า – ผัก, ผลไม้ชนิดต่างๆ ไข่ นมสดเนย และเนยเทียม ขนมปัง ขนมหวาน หรือน้ำตาล ไขมันจากพืช และสัตว์ ธัญพืชต่างๆ

เมื่อสารพิวรีนถูกย่อยสลายก็จะเกิดกรดยูริค เพราะฉะนั้นเราไม่อาจหลีกเลี่ยงสารพิวรีนได้เลย มันเป็นเรื่องปกติที่เราต้องเจอ แต่ไม่ต้องห่วงครับ การรับสารพิวรีนจากอาหารจะมีประมาณ 20%

2. กรดยูริค สร้างโดยร่างกายเอง 80% ของกรดยูริคที่เกิดขึ้น เกิดจากร่างกายผลิตขึ้นมาเอง ซึ่งมาจากการสลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อต่างๆ การสลายนี้จะเปลี่ยนให้เป็นกรดยูริก เช่น กล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น ความเสื่อมของเซลล์ หรือภาวะอดอาหาร เป็นต้น

ตามปกติร่างกายจะรักษาระดับกรดยูริคในเลือดให้สมดุลอยู่ไม่เกิน 7 mg ต่อ 1,000 mg ร่างกายจะมีระบบควบคุมการสร้างและการกำจัดกรดยูริกผ่านทางไตประมาณ 2 ส่วนของกรดยูริคมีอยู่ในร่างกาย อีก 1 ส่วนขับออกทางลำไส้ใหญ่ สลายไปโดยแบคทีเรียในลำไส้

เก๊าซ์ เกิดจากร่างกายมีกรดยูริคมากเกินจนขับออกไม่ทัน จึงมีกรดยูริคตกค้างซึ่งส่วนมากจะไปคั่งค้างในไขข้อกระดูกต่างๆ จนปวดและทรมาน

ปัจจัยที่ทำให้กรดยูริคมากจนตกค้างในร่างกาย มีปัจจัยใหญ่ๆ 3 อย่าง

  1. กินอาหารที่มีสารพิวรีนมากเกินไป บ่อยเกินไป อันนี้ก็ปกตินะ โดยปกติร่างกายก็มีกรดยูริคอยู่แล้ว เพราะเซลล์กล้ามเนื้อในร่างกายถูกสลายทุกเวลาอยู่แล้วตามปกติ แล้วยิ่งกินอาหารที่มีสารพิวรีนเข้าไปสำทับอีก ทำให้กรดยูริคมีมากขึ้น
  2. ภาวะไตขับถ่ายได้ไม่ดี เพราะไตเป็นอวัยวะหลักที่ทำหน้าที่ขับกรดยูริค หากเกิดภาวะไตไม่ดี การขับถ่ายก็ไม่ดีเช่นเดียวกัน จึงไม่แปลกว่าทำไมคนที่เป็นโรคไตจึงมักมีปัญหาปวดตัว ปวดข้อ ปวดกระดูก ในบางครั้งเราอาจจะมีกรดยูริคไม่เกินค่าวิกฤต แต่ก็เป็นเก๊าท์ได้เพราะไตมีประสิทธิภาพการขับถ่ายลดลง บางครั้งก็อาจจะเกิดจากการกินยาบางประเภททำให้ไตลดประสิทธิภาพการทำงานลง และหากเราดื่มสุรายาเมาก็จะทำให้ประสิทธิภาพการขับถ่ายกรดยูริกลดลง ยิ่งดื่มยิ่งปวด
  3. ความเสื่อมของร่างกาย ภาวะอนุมูลอิสระมาก เมื่อร่างกายมีความเสื่อมมาก เซลล์ก็สลายตัวมาก เมื่อเซลล์สลายตัวมาก สารพิวรีน กรดยูริคก็เพิ่มมากขึ้น เรื่องนี้แก้ได้ด้วยการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระให้มาก

กรดยูริคไปสะสมที่ไหนมากๆ ก็จะปวดที่นั่น และหากกรดยูริคสะสมมากๆๆๆ ก็จะตกเป็นผลึก กลายเป็นนิ่วในอวัยวะที่สำคัญ เช่น นิ่วในตับ นิ่วในไต

ฉะนั้นหากเราต้องการรักษาโรคเก๊าท์ ต้องทำ 4 อย่าง

  1. ลดอาหารที่จะเพิ่มกรดยูริค
  • สุรา มีส่วนทำให้ร่างกายรวน ก่อเกิดกรดยูริค
  • เครื่องในมีพิวรีนมาก รับประทานเข้าไป ก่อเกิดกรดยูริค
  • กะปิ ปลาซาดีน,ปลาซาดีนกระป๋อง ไข่ปลา เนื้อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม น้ำเกรวี
  • ผักบางอย่าง เช่น หน่อไม้ฝรั่ง เห็ด แอสพารากัส กะหล่ำดอก ผักขม
  1. ดูแลตัวเองให้มีความสมดุล ลดอนุมูลอิสระ
  • รับประทานอาหารตามปกติและเพียงพอ ไม่มากและไม่น้อย
  • นอนหลับให้เพียงพอ
  • สวมรองเท้าขนาดพอเหมาะ 
  •   ควบคุมน้ำหนักของร่างกาย
  • ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่งั้นอาจเป็นนิ่วในไต

สำหรับใครที่ ณ ตอนนี้เป็นโรคเก๊าท์ ไปซะแล้ว หากจะกลับสู่ภาวะปกติสิ่งที่เราต้องทำ นั่นคือ 

  1. ลดอาหารที่มีสารพิวรีน กรดยูริค
  2. ชะลอแก่ ลดความเสื่อมของร่างกายด้วยการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ บำรุง บำบัดร่างกายให้แข็งแรงเพราะลดภาวะเซลล์เสื่อม สลายเซลล์
  3. เพิ่มประสิทธิภาพของไต ให้สามารถขับถ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
  4. ดึงกรดยูริคที่คั่งค้างออกมาเพื่อขับออก ข้อนี้สำคัญมากๆ การเป็นโรคเก๊าท์ คือ กรดยูริคมีการสะสมซะแล้ว ปวดมากปวดน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนการสะสม ฉะนั้นถ้าจะเอาออกก็ต้องดึงมันออกมาขับออก มันไม่สามารถระเหยออกไปเองได้ แต่ข้อนี้เราจะรู้สึกเจ็บขึ้นครับ เพราะการดึงคือการสลายสมดุลของผลึกยูริค จึงรู้สึกปวดเป็นธรรมดา แต่เมื่อกรดยูริคถูกดึงออกมาแล้ว ร่างกายจะเบาตัวขึ้นมาก และอาการเก๊าท์จะดีขึ้น

ผมบุรินทร์ จันวิไชย ยินดีเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ

เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างธรรมชาติ ด้วยการแพทย์ทางเลือกควบคู่แผนปัจจุบันสมุนไพรจีนโหย่งเหิง และอื่นๆ คลิก:BurinOnline.com/Yong

]]>
http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b9%8a%e0%b8%b2%e0%b8%97%e0%b9%8c/feed/ 0
กินขมิ้นชันอย่างไรดีให้ได้ผลดี http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%ab/ http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%ab/#respond Fri, 03 May 2019 07:59:28 +0000 http://burinonline.net/?p=605

เชื่อว่าหลายคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าขมิ้นชันนั้นมีประโยชน์มากมาย แต่ทราบไหมว่า การทานขมิ้นชันในเวลาที่ต่างกัน ก็จะทำให้เราได้รับสรรพคุณของขมิ้นชันที่แตกต่างกันไปด้วย วันนี้ไปดูกันดีกว่าว่า

ทานขมิ้นชันเวลาไหน ส่งผลดีต่ออะไรกันบ้าง

เวลา 03.00 – 05.00 น.

ช่วยบำรุงปอด ทำให้ปอดแข็งแรง ช่วยเรื่องภูมิแพ้ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ผิวหนัง

เวลา 05.00 – 07.00 น.

ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เคยกินยาถ่ายมาเป็นเวลานาน ขมิ้นชันจะช่วยฟื้นฟูปลายประสาทของสำไส้ใหญ่ หากทานเป็นประจำจะทำให้ลำไส้ใหญ่บีบรัดตัวจนขับถ่ายอย่างปกติ อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหาลำไส้ใหญ่กลืนลำไส้เล็ก หรือลำไส้ใหญ่มีปัญหาถ่ายมากเกินไปหรือถ่ายน้อยเกินไป ช่วยล้างสารพิษในระบบลำไส้ ป้องกันริดสีดวงทวาร และมะเร็งลำไส้

เวลา 07.00 – 09.000 น.

ช่วยแก้ปัญหาเรื่องกระเพาะอาหาร เกิดจากการกินข้าวไม่เป็นเวลา ท้องอืด จุกแน่น ปวดเข่า ขาตึง ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันความจำเสื่อม

เวลา 09.00 – 11.00 น.

ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำเหลืองเสีย มีแผลในปาก อ้วนหรือผอมเกินไป ช่วยเรื่องม้าม ลดอาการเป็นเก๊าต์และเบาหวาน

เวลา 11.00 -13.00 น.

ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ

เวลา 13.00 – 15.00 น.

ช่วยแก้ปัญหาเรื่องปวดท้องบ่อยเนื่องจากมีไขมันเกาะลำไส้เล็ก

เวลา 15.00 – 17.00 น.

ช่วยบำรุงหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง แก้ปัญหาเรื่องตกขาวของสตรี และจะดียิ่งขึ้นหากกินน้ำกระชายควบคู่กันในเวลานี้ เพราะจะช่วยเสริมการดูแลหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง

เวลา 17.00 น. – ก่อนนอน

ช่วยเรื่องความจำทำให้ความจำดี ตื่นนอนตอนเช้าจะไม่ค่อยอ่อนเพลีย และช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น กินขมิ้นชันมาก ๆ จะช่วยขับไล่ไรฝุ่นที่ผิวหนัง ไม่เป็นผดผื่นคันง่าย ๆ และช่วยขับไขมันในตับ

และที่สำคัญ การกินขมิ้นให้ได้ผลที่ดี ควรกินเป็นอาหารหรือกินควบคู่กับอาหาร กินหลังอาหารดีมาก

หากจะให้ดีกว่าเดิมต้องกินคู่กับพริกไทย หรือน้ำมันมะพร้าว จะทำให้ร่างกายดูดซึมคุณค่าทางอาหารของขมิ้นชันได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

ผมบุรินทร์ จันวิไชย ยินดีเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ

เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างธรรมชาติ ด้วยการแพทย์ทางเลือกควบคู่แผนปัจจุบันสมุนไพรจีนโหย่งเหิง และอื่นๆ คลิก: BurinOnline.com/Yong

]]>
http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%82%e0%b8%a1%e0%b8%b4%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%ab/feed/ 0
โรคร้าย เกิดจากอะไร http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80/ http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80/#respond Sun, 21 Apr 2019 07:18:24 +0000 http://burinonline.net/?p=62

โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค ไวรัส หรือแบคทีเรีย

95% โรคพวกนี้เกิดจากพฤติกรรมของเราในอดีต เราทำร้ายตัวเองใช้ร่างกายเปลืองเกินกว่าที่ธรรมชาติให้มา ทำให้อวัยวะส่วนนั้น เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น หรือบางครั้งก็เกิดจากวัยที่ชราภาพลง ร่างกายจึงเกิดสึกหรอ เสื่อมเป็นธรรมดา บางคนจึงเรียกว่า โรคเสื่อมของร่างกาย (NCDs)

โรคไม่ติดต่อเรื้อรังเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น มะเร็ง โรคไต โรคตับแข็ง ตับเสื่อม ไขมันพอกตับ ไตวาย ภูมิแพ้ แพ้ภูมิตัวเอง หอบหืด เลือดจาง ปวดข้อ เก๊าต์ โรคกระเพาะ หลอดเลือดแตก หลอดเลือดตีบ ไขมันอุดตัน คอเลสเตอรอล เนื้องอก ปวดเมื่อย อัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม เบาหวาน แผลกดทับ ปวดมดลูก ปวดประจำเดือน มดลูกต่ำ ซีส ความดัน ฮอร์โมนไม่คงที่ โรคหัวใจ ไทรอยด์ ระบบประสาท เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ และโรคเรื้อรังต่างๆ 

ส่วนเรื่องกรรมพันธุ์ จะเป็นสาเหตุไหม??

ผมยกให้ว่าเป็นแค่ข้อความเสี่ยงเท่านั้นครับ แต่ยังไม่ปักใจว่าจะเป็นสาเหตุ ยกเว้นเรื่องเดียวเลยคือ อวัยวะส่วนนั้นเกิดบกพร่องมาตั้งแต่เกิด เช่น มีไตข้างเดียว มีตับอ่อนไม่ดี มีหัวใจไม่แข็งแรง แต่ถ้าเกิดมาสมบูรณ์ทั้ง 32 แล้วจะมาเกิดโรคเสื่อมภายหลัง กรรมพันธุ์ไม่เกี่ยวข้องครับ 

มันไม่ได้เสมอไปที่พ่อแม่เป็นโรคเสื่อมแล้วลูกจะเป็นนะ แต่…ส่วนมากมักเป็น มันไม่ได้สืบสายผ่านสายเลือด แต่มันติดต่อกันผ่านพฤติกรรมเล่นแบบ พ่อแม่กินหวาน มีหรือที่ลูกที่อยู่ใกล้จะไม่กินหวานไปด้วย พ่อแม่ถ่ายทอดพฤติกรรมความเสี่ยงสู่ลูกผ่านการทำให้ดูให้เห็นให้สัมผัสจนเคยชิน จนติดตัวไปแบบไม่รู้ตัว นี่ต่างหากคือสาเหตุที่แท้จริง

เมื่อเรามีพฤติกรรมที่ผิดไปจากธรรมชาติอยู่บ่อยๆ นานๆ เข้า ก็ผิดแผกแตกต่างจากที่ธรรมชาติให้มา อวัยวะส่วนนั้นก็เริ่มเสื่อมไว แก่กว่าวัย (ไม่ใช่แค่ผิวพรรณนะ ทุกส่วนของร่างกายมีโอกาสแก่กว่าวันได้ทั้งนั้น)

พฤติกรรมพวกนี้เกิดสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “อนุมูลอิสระ” พฤติกรรมผิดๆ ทุกๆ อย่างทำให้อนุมูลอิสระที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ ยิ่งมีมากขึ้นมากขึ้น เมื่อมันไม่สมดุล อนุมูลอิสระเกิดมากเกิน โรคเสื่อม (NCDs) จึงบังเกิดขึ้นในร่างกายเรานั่นเอง

นี่แหละ ตัวแม่ของโรคเสื่อมทุกชนิด มันทำให้ร่างกายต้องกลายพันธุ์เพื่อให้เซลล์รอด พอเริ่มเกิดโรคเสื่อมแรก นี่คือสัญญาณบอกว่าสารอนุมูลอิสระมีมากแล้วในร่างกาย หากปล่อยไว้ สารอนุมูลอิสระ ก็จะก่อตัวเป็นอีกโรคเสื่อมหนึ่งตามมา จึงไม่แปลกเลยที่ทำไม คนที่เป็นโรคเสื่อมมักไจะไม่มีเพียงแค่โรคเดียว เช่น ไตมา ตับก็จะไม่ดี เบาหวานก็ตาม ความดัน และจบด้วยมะเร็ง เป็นต้น

ฉะนั้นหากเราต้องการห่างไกลพวกนี้ เราจึงต้องดูแลตัวเอง ด้วย 3 อ. ออกกำลังกาย อากาศ และอาหาร สร้างพฤติกรรมต่างๆ เพราะเสริมสร้าง “สารต้านอนุมูลอิสระ” – Natural Killer Calls – เซลล์นักฆ่า (ฆ่าอนุมูลอิสระ) มีสิ่งนี้มากในร่างกายเราจะห่างไกลโรคเสื่อม

ณ ตอนนี้การรักษาโรคเสื่อมด้วยยาเคมี ปัจจุบันก็มีเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เจ็บตรงไหนแก้ตรงนั้น แก้ไม่ได้ก็ตัดออก แต่ท้ายสุดก็ไม่หายขาดสักที 

หากคุณต้องการรักษาจริงๆ แก้ปลายเหตุอย่างเดียว ไม่จบง่ายหรอกครับ เราต้องแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุด้วย เมื่อโรคพวกนี้เกิดจากสารอนุมูลอิสระ เราต้องทำให้ร่างกายเรามีสารต้านอนุมูลอิสระให้มากๆ นี่คือวิธีแก้ไขที่ตรงจุดที่สุด แก้ไขที่ต้นเหตุ 

หากตอนนี้ใครที่เป็นโรคเสื่อมไปซะแล้ว ก็จำเป็นต้องรักษาไปตามอาการ แต่ก็อย่าลืมเพิ่มกองทัพต้านอนุมูลอิสระด้วย เพราะมันคือวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้คุณเอาชนะมันได้จริง ถ้าลมหายในยังไม่หยุด ก็อย่าคิดยอมแพ้

“สงครามมันยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารนะครับ”

ผมบุรินทร์ จันวิไชย ยินดีเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ

เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่างธรรมชาติ ด้วยการแพทย์ทางเลือกควบคู่แผนปัจจุบันสมุนไพรจีนโหย่งเหิง คลิก: BurinOnline.com/Yong

]]>
http://burinonline.net/uncategorized/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1-%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b9%80/feed/ 0